วิธีลดไขมันในเลือดสูงให้ปกติภายใน 3 เดือน

คนไทยส่วนใหญ่กลัวเรื่องปัญหาไขมันในเลือดสูง นั่นเพราะเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมายที่เพิ่มโอกาสการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตัน โดยจากสถิติในแต่ละปีคนไทยประมาณ 60,000-100,000 คน เสียชีวิตจากโรคนี้จากต้นเหตุของไขมันในเลือดสูง และอีกกว่า 39 ล้านคน กำลังเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

ไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) คืออะไร

ไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) คือ ภาวะที่ร่างกายมีไขมันในเลือดมากกว่าปกติ โดยมีความเป็นไปได้ทั้งคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ซึ่งภาวะไขมันในเส้นเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และสมอง รวมทั้งเส้นเลือดตีบ และอุดตัน ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ไม่ดี และที่สำคัญเพิ่มโอกาสการเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน

สาเหตุให้ภาวะไขมันในเลือดสูง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ระบุถึงสาเหตุของไขมันในเลือดสูงไว้ทั้งหมด 4 ข้อดังนี้

1.  ความผิดปกติทางกรรมพันธุ์

คนที่มีประวัติพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งความผิดปกติสาเหตุนี้ทำให้ร่างกาย
เผาผลาญทำลายไขมันลดลง

2.  การใช้ยาบางชนิด หรือการเป็นโรคบางอย่าง

ยาบางชนิดที่มีส่วนทำให้เกิดไขมันในเลือดสูงอย่างเช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด ส่วนโรคบางอย่างก็ทำให้ไขมันในเลือดสูงได้เช่นกัน ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อย โรคไต เป็นต้น

3.  การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และผิดหลักทางโภชนาการ

จากการเก็บสถิติโดยหน่วยงานทางสาธารณสุขพบว่า สาเหตุนี้เป็นต้นเหตุของไขมันในเลือดสูง
ที่เกิดขึ้นกับคนในปัจจุบันมากที่สุด การรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก เช่น กะทิ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก อาหารทอดในน้ำมัน เช่น ปาท่องโก๋ หมูกรอบ เป็นต้น รวมทั้งการรับประทานอาหารหวานที่มีปริมาณน้ำตาลจำนวนมากเป็นประจำ เช่น ขนมหวาน เบเกอรี่ หรือชาไข่มุก

4.  การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

การดื่มเหล้า ไวน์ เบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ ในปริมาณมากเกินไป รวมทั้งดื่ม
เป็นประจำก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไขมันในเลือดสูงได้เช่นกัน

ค่าไขมันในเลือดแต่ละชนิดของคนปกติควรมีค่าเท่าไหร่

1. ค่าไขมันคอเลสเตอรอลรวม Total cholesterol หรือ TC ควรน้อยกว่า 200 mg/dl
2. ค่าไขมันคอเลสเตอรอลชนิดเลว หรือ LDL-C ควรน้อยกว่า 130 mg/dl
3. ค่าไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี หรือ HDL-C ควรมากกว่า 150 mg/dl
4. ค่าไขมันไตรกลีเซอไรด์ หรือ TG ควรน้อยกว่า 150 mg/dl

วิธีลดไขมันในเลือด ทำได้อย่างไร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ว่า “วิธีลดไขมันในเลือด ให้เป็นปกติที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องใช้ยาก็เป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยตนเอง แต่ต้องทำอย่างเคร่งครัดรับรองว่าเห็นผลในระยะเวลาอันสั้นแน่นอน” ซึ่งวิธีมีดังต่อไปนี้

1.  เลือกรับประทานอาหารที่ดีให้ถูกหลักโภชนการ

You are what you eat ยังคงเป็นประโยคสุดคลาสิกที่ใช้เตือนใจคนที่ชอบตามใจปากได้เสมอ ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีสุขภาพที่ดีตามมา ซึ่งหัวใจหลักคือ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเลือกรับประทานอย่างถูกวิธีจึงจะลดไขมันในเลือดสูงได้อย่างเห็นผล

• กลุ่มเนื้อ นม ไข่
  คนที่ไขมันในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อแดงและเนื้อหมู แต่ให้เปลี่ยนเป็นรับประทานเนื้อปลาแทน เพราะเนื้อปลาจะมีกรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการลดไขมันในเลือดสูง ป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือดหัวใจและสมองได้โดยตรง นอกจากปลาแล้วก็อาจจะเลือกรับประทานเนื้อไก่แทนก็ได้ โดยเฉพาะส่วนอกจะมีไขมันที่น้อยกว่าส่วนอื่นๆ นอกจากนี้ควรลดการรับประทานเครื่องในสัตว์ทุกชนิด และอาหารทะเล เนื่องจากปริมาณไขมันคอเลสเตอรอลที่อยู่ในเครื่องในสัตว์ทุกชนิดมีปริมาณที่สูงมาก หรือแม้แต่การดื่มนมก็ต้องเลือกในแบบนมพร่องมันเนยแทน
• กลุ่มแป้งและน้ำตาล
  คนไทยส่วนใหญ่คุ้นชินกับการรับประทานข้าวขาวที่ผ่านการขัดสี แต่สำหรับคนที่ไขมันในเลือดสูงควรเปลี่ยนไปรับประทานข้าวกล้องแทน (ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี) ซึ่งจะช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) ลงได้ เพราะในข้าวกล้องมีรำข้าวที่อุดมไปด้วยน้ำมันรำข้าว ซึ่งเป็นไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL- cholesterol) จะช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด
  ส่วนบางคนชอบรับประทานขนมปังก็ให้เปลี่ยนไปรับประทานขนมปังโฮลวีทที่มีกากใยอาหารที่สำคัญต้องงดรับประทานน้ำหวาน ขนมหวาน และงดการปรุงอาหารรสหวาน โดยเหตุผลที่ให้ลดน้ำตาลก็เนื่องจาก เมื่อรับประทานน้ำตาลในปริมาณมากจะทำให้ตับผลิตไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL – cholesterol) ออกมามากขึ้น และยับยั้งการกำจัดไขมันคอเลสเตอรอลชนิดนี้ให้น้อยลงจนทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้น
• กลุ่มผักและผลไม้
  คนที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูงมีความจำเป็นที่ต้องรับประทานผักผลไม้ให้มากกว่าปกติเป็นประจำ เพราะจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่ดีมากขึ้น อีกทั้งผักบางชนิดยังช่วยลดไขมันในเลือดสูงได้โดยตรง เช่น กระเจี๊ยบเขียว ต้นอ่อนทานตะวัน พริกหวาน ขึ้นฉ่าย และต้นหอม ส่วนการเลือกรับประทานผลไม้ก็ไม่ควรเลือกแบบที่มีรสหวานมาก ๆ ต้องเลือกรับประทานผลไม้น้ำตาลต่ำ เช่น แตงโม ส้ม พีช กีวี่ หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะดีที่สุด
• กลุ่มไขมัน
  อาหารในกลุ่มนี้เป็นอาหารที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด ควรหลีกเลี่ยงกลุ่มไขมันอิ่มตัวที่พบมากในไขมันสัตว์ กะทิ เนย เนยเทียม ครีมเทียม รวมถึงไขมันทรานส์ เนื่องจากไขมันชนิดนี้จะทำให้ระดับไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL- cholesterol) สูงขึ้น และยังไปลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL- cholesterol) จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ในระยะยาว แต่หากหันมารับประทานไขมันไม่อิ่มตัวเช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) หรือโอเมก้า-6 (Omega– 6) ที่พบได้ในเนื้อปลา และในพืช เช่น เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นประจำ ก็จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ทั้งนี้การรับประทานไขมันก็ยังจำเป็นอยู่สำหรับร่างกาย เพราะจะช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

2.  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลดีต่อระดับไขมันในเลือด โดยเมื่อร่างกายได้ใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว จะช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) และช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL- cholesterol) ส่งผลให้ลดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด และมีค่าไขมันในเลือดที่สมดุลมากขึ้น  

3.   จัดการกับความเครียด

หลายคนอาจสงสัยว่าไขมันในเลือดสูงเกี่ยวกับเรื่องความเครียดได้อย่างไร นั่นก็เพราะความเครียดจะทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระภายในระบบต่างๆ มากขึ้น ทำให้ตับทำงานผิดปกติซึ่งมีส่วนทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้นได้

ทำแบบประเมินความเครียดด้วยตนเอง คลิกที่นี่

4.  เลิกสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

พฤติกรรมบั่นทอนสุขภาพสองประการนี้เป็นเรื่องที่คนมีไขมันในเลือดสูงต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้ไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ลดลงกว่าร้อยละ 15 และจากผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า “การสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวจะเพิ่มการอุดตันของไขมันในเส้นเลือดได้ถึง 30% เพราะการสูบบุหรี่จะไปทำให้เลือดข้นเหนียว และเกาะตัวเป็นลิ่ม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองในเวลาต่อมา”

ขณะเดียวกันหากชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ต้องเลิกหรือจำกัดปริมาณการดื่มให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันหากชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ต้องเลิกหรือจำกัดปริมาณการดื่มให้น้อยที่สุด เพราะการเครื่องดื่มประเภทนี้ให้พลังงานสูงเทียบเท่าการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ จึงมีส่วนที่ทำให้ไขมันในเลือดสูง และหากดื่มทุกวันจะทำให้มีพลังงานส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายถึงวันละ 50-200กิโลแคลอรี่ ผลเสียที่ตามาก็คือน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1 กิโลกรัม ท้ายที่สุดกลายเป็นโรคอ้วน และไขมันในเลือดสูงตามมา

5.  เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติเป็นตัวช่วย

นอกจาก 4 วิธีปฏิบัติข้างต้นที่กล่าวไป ปัจจุบันแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ค้นพบสารสกัดจากธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดไขมันในเลือดสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสารดังกล่าวเรียกว่า สารสกัดโพลีโคซานอล (Policosanol) เป็นสารจากธรรมชาติ 100% ที่ได้มาจากไขเปลือกอ้อย และออกฤทธิ์ได้เหมือนกับยาลดไขมันกลุ่มสแตติน ซึ่งเป็นในยากลุ่มที่ใช้เพื่อลดไขมันในเลือด แต่ปลอดภัยมากกว่าและไม่มีผลข้างเคียง โดยมีสรรพคุณที่ยืนยันว่าสามารถช่วยลดไขมันในเลือดสูงได้เป็นอย่างดี โดยสามารถ
 	-  ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesteral) ได้ถึง 33%
 	-  ลดระดับ และกำจัดไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-Cholesteral) ได้ถึง 31%
 	-  ช่วยเพิ่มระดับของไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesteral) ได้ถึง 29%
 	-  ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้สูงถึง 50%

การนำเอา วิธีลดไขมันในเลือด ที่กล่าวไปข้างต้นไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รับรองว่าจะระดับไขมันในเลือดสูงจะลดลงจนอยู่ในระดับปกติโดยไม่ต้องใช้ยาแต่อย่างใด แต่ถึงแม้ระดับไขมันในเลือดสูงจะกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้วการต้องดูแลสุขภาพและปฏิบัติตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อลดโอกาสการกลับมาเสี่ยงไขมันในเลือดสูงได้อีก