คุณกำลังมีอาการเหล่านี้หรือไม่? เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศรีษะ ซีด สมองช้า หลงลืมง่าย ขาดสมาธิ เบื่ออาหาร เจ็บหน้าอก และใจสั่น หากมีอาการดังกล่าวอาจสันนิษฐานได้ว่ากำลังเสี่ยงภาวะเลือดจาง ซึ่งเกิดจากปริมาณของเม็ดเลือดแดงในร่างกายลดลง
เลือดจาง หรือโลหิตจาง (Anemia) โดยทั่วไปเรียกกันว่าภาวะซีด คือภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงหรือความเข้มข้นของฮีโมโกลบินลดลงกว่าปกติ (ฮีโมโกลบิน คือสารสีแดงในเม็ดเลือดแดง) ซึ่งเม็ดเลือดแดงจะทำหน้าที่สำคัญในการนำออกซิเจนไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อในอวัยวะต่าง ๆ หากร่างกายมีเม็ดเลือดแดงลดลงจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ใจสั่น ผิวซีดหรือผิวเหลือง
1. การสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกายลดลง ซึ่งเป็นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
2. ความผิดปกติทางพันธุ์กรรมของเม็ดเลือดแดง โรคกลุ่มนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย เช่น โรคธาลัสซีเมียที่ถ่ายทอดจากทางกรรมพันธ์ทําให้เกิดภาวะเลือดจาง หรือ G-6-PD (ความผิดปกติทางพันธุกรรมทำให้พร่องเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดง) รวมทั้งการติดเชื้อบางชนิด เช่น มาลาเรีย คลอสติเดียม ไมโคพลาสมา เป็นต้น
3. สูญเสียเลือดเรื้อรังหรือเฉียบพลัน เช่น เลือดออกจากแผลอุบัติเหตุต่างๆ มีแผลในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะปนเลือด บริจาคเลือด และการเสียเลือดจากประจำเดือน
1. รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
2. หน้ามืด เวียนศรีษะ
3. สมองช้า หลงลืมง่าย ขาดสมาธิ
4. เบื่ออาหาร ท้องอืด
5. หายใจลำบากขณะออกแรง
6. มือเท้าเย็น
7. เจ็บหน้าอก ใจสั่น
การรักษาเลือดจางที่ดีที่สุดอันดับแรกก็คือ พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคว่าเป็นเลือดจางประเภทไหน เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ซึ่งหากเป็นโลหิตจางจากการขาดวิตามินหรือแร่ธาตุซึ่งเป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด แพทย์ก็จะให้ยาที่ช่วยเสริมสารอาหารจําเป็นต่อการสร้างของเม็ดเลือดแดงมาให้ เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก ส่วนการปรับพฤติกรรมที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติควบคู่กันไปที่แนะนำก็คือ
ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีภาวะเลือดจางเท่านั้น คนปกติที่รักการดูแลสุขภาพก็ควรจะต้องบำรุงเลือดเช่นกัน โดยสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงให้สมบรูณ์ประกอบไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี12 และ กรดโฟลิค (วิตามินบี 9 )
-