สูงวัย ทำไมต้องใส่ใจกระดูกและข้อมากกว่าเดิม

ทั้งหมด
ผู้สูงอายุ ข้อเสื่อม

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นที่ทราบกันดีเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะมีความเสื่อมและสึกหรอไปตามวัย จึงส่งผลต่อการเกิดโรคต่างๆ ตามมาโดยเฉพาะโรคกระดูกพรุน และ ข้อเสื่อม ซึ่งนับเป็นโรคที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยโดยตรง

โรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม ภัยเงียบของผู้สูงวัย


เมื่ออายุมากขึ้นก็มีโอกาสเป็น โรคกระดูกพรุน และข้อเสื่อมมากขึ้นตามมา เนื่องจากร่างกายมีอัตราการสร้างและการทำลายกระดูกที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงการสร้างคอลลาเจนบริเวณข้อกระดูกและมวลกระดูกลดลงจึงทำให้กระดูกและข้อเสื่อมสภาพและสลายไปตามวัย จากสถิติทั่วโลกพบว่าในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40 ปี สามารถพบอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคกระดูกพรุนสูงถึง 22% (ข้อมูลจากวารสารทางการแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช) และมีผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีอาการกระดูกหักง่าย ซึ่งบริเวณที่พบบ่อย คือ สะโพก ข้อมือ และสันหลัง

ข้อเสื่อมใน ผู้สูงอายุ

โรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม ป้องกันได้ในผู้สูงวัย

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานจะลดโอกาสในการเกิดโรคข้อเสื่อมและชะลอไม่ให้โรคข้อเสื่อมเป็นมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะข้อที่ต้องรับน้ำหนัก ได้แก่ ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อกระดูกสันหลัง และข้อสะโพก
  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นมสด เต้าหู้ กล้วย งาดำ กุ้งฝอย ผักใบเขียวต่างๆ เป็นต้น
  • ออกกำลังกายและบริหารร่างกาย เช่น การเดิน เต้นแอโรบิก หรือการรำมวยจีนจะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันข้อติดและทำให้การเคลื่อนไหวของข้อเป็นไปได้อย่างปกติ
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ ไม่อยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานเกินไป ไม่ควรยืน คุกเข่า หรือนั่งยองเป็นเวลานาน
  • ตรวจมวลกระดูกปีละครั้ง

นอกเหนือจากการปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในทางการแพทย์ในการป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ คือ การเลือกเสริม 2 สารอาหารสำคัญอย่าง ไฮโดรไลเซตคอลลาเจน (Hydrolysate Collagen) สูตรฟอร์ทิเจล (Fortigel) รวมถึงสารอาหารจากธรรมชาติสูตรสติมูแคล (StimuCal) ที่ประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่าง Ossein-Hydroxyapatite Complex (OHC), Vitamin D3 และ Vitamin K2

ไฮโดรไลเซตคอลลาเจน (Hydrolysate Collagen)

ไฮโดรไลเซตคอลลาเจน (Hydrolysate Collagen) สูตรฟอร์ทิเจล (Fortigel) เป็นสารอาหารที่ผ่านขบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีขนาดและความยาวสั้นลง จึงช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนง่ายขึ้น และร่างกายสามารถนำไปสร้างข้อกระดูกอ่อนและเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อได้ ช่วยลดการเสียดสีของข้อต่างๆ ที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ โดยมีผลวิจัยทางการแพทย์ว่าสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาโรคข้อเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารอาหารจากธรรมชาติสูตรสติมูแคล (StimuCal)

  • Ossein-Hydroxyapatite Complex (OHC) เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ 100% ที่สกัดได้จากกระดูกวัว มีส่วนประกอบของแคลเซียม โปรตีน และฟอสฟอรัสที่ช่วยสร้างความหนาแน่นของเนื้อกระดูก ช่วยป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Vitamin D3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี และช่วยเสริมการสร้างมวลกระดูก
  • Vitamin K2 ช่วยสร้างความแข็งแรงให้มวลกระดูกจากการสร้างโปรตีนที่มีชื่อว่า ออสทีโอแคลซิน (Osteocalcin) ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Vitamin D3 ในการเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก ช่วยลดการเกาะของแคลเซียมหรือหินปูนที่หลอดเลือดแดงและดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อกระดูกได้ดีขึ้น

ข้อสรุปเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน ข้อเสื่อม ในผู้สูงวัย

จะเห็นได้ว่าผู้สูงวัย จำเป็นต้องใส่ใจดูแลกระดูกและข้อมากกว่าเดิม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อม และเกิดอุบัติเหตุทำให้กระดูกหักได้ง่ายกว่าปกติ ในบางรายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย หากไม่ได้รับการดูแลรักษา หรือรักษาล่าช้า อาจเสี่ยงกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เสียชีวิต โรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมจึงนับเป็นภัยเงียบสำหรับผู้สูงวัย สิ่งสำคัญคือควรดูแลหรือป้องกันไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันจนอาจทำให้เดินไม่ไหว และมีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

อ้างอิง

-

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

ข้อเสื่อม

ข้อกระดูกเสื่อมหรือไม่ เช็คอาการได้ด้วยตนเอง

ข้อเสื่อม

เพิ่มความแข็งแรงให้ข้อเข่า ด้วย “ไฮโดรไลเซต คอลลาเจน ”

กระดูกพรุน

2 ตัวช่วยหมดปัญหากระดูกและข้อ