ใบแปะก๊วย (Ginkgo) สมุนไพรโบราณที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทางการแพทย์แผนจีนมาอย่างช้านาน เพราะมีสรรพคุณทางยาหลายชนิด อีกทั้ง ประโยชน์ใบแปะก๊วย (Ginkgo) ยังช่วยบำรุงร่างกายและบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต มีการนำผลแปะก๊วยมาประกอบอาหารในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ใช่ส่วนที่มีสารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมอง เพราะสารสำคัญเหล่านั้นอยู่ในส่วนของใบและไม่นิยมนำมาประกอบอาหารในชีวิตประจำวัน
แปะก๊วย ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า Ginkgo biloba มีถิ่นกำเนิดจากทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรและผลิตยาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีสารประกอบทางเคมีที่สำคัญอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่
ซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Free radical) ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปสู่สมอง รวมทั้งปลายมือและปลายเท้า ปัจจุบันได้มีการนำสารสกัดจากใบแปะก๊วยมาผสานกับ ฟอสโฟไลปิด (Phospholipids) ให้อยู่ในรูปแบบไฟโตโซม (Phyto some) เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์ใบแปะก๊วยได้ดีขึ้น ไม่เพียงเท่านี้สารสกัดใบแปะก๊วยในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยังช่วยบำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม โรคซึมเศร้า อาการหลงๆ ลืมๆ และกลุ่มอาการนอนไม่หลับอีกด้วย
1. สารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ใบแปะก๊วยมีสารสำคัญที่ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายและชะลอการเสื่อมของสมองจากอายุที่เพิ่มขึ้นและสารอนุมูลอิสระ
2. กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของร่างกายและสมอง เนื่องจากใบแปะก๊วยมีฤทธิ์ที่ช่วยทำให้ออกซิเจนสามารถไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ดี นอกจากนี้ยังมีบางงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยเป็นเวลา 24 สัปดาห์ อาจช่วยให้ผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดที่ขาไม่ดีสามารถเดินได้ไกลขึ้นได้โดยไม่ปวดขาอีกด้วย
3. ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากใบแปะก๊วย (Ginkgo) สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงสมองได้ดี ซึ่งส่งผลดีในการช่วยปกป้องการสูญเสียความทรงจำ รวมทั้งบำรุงความจำ และบรรเทาอาการของโรคอัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1994 พบว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่รับประทานสารสกัดใบแปะก๊วยมีความจำที่ดีขึ้นอีกด้วย
4. ช่วยลดอาการเวียนหัวบ้านหมุน โดยการรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วย ขนาด 240 มก.ต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ จะมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเวียนหัวบ้านหมุนเท่ากับเบตาฮีสทีน (ยาที่ใช้รักษาอาการเวียนหัว) ที่นิยมใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน
5. เพิ่มสมาธิและความจำดีขึ้น มีผลวิจัยที่ทำในกลุ่มตัวอย่างคนทำงาน พบว่า วัยทำงานที่รับประทานแปะก๊วย ในปริมาณ 120-240 มก.ต่อวัน จะมีการพัฒนาทางความคิด ความจำ และสมาธิเพิ่มขึ้น
6. การศึกษาในผู้ป่วยที่มีภาวะประสาทหูเสื่อมเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ (ISSHL) ที่สูญเสียการได้ยินอย่างน้อย 15 เดซิเบลขึ้นไป จำนวน 106 คน พบว่าการรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วย 120 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มความเร็วในฟื้นตัวของผู้ป่วยที่มีภาวะนี้ได้
7. ใบแปะก๊วย (Ginkgo) ช่วยต้านโรคซึมเศร้าสำหรับคนป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป มีการศึกษาพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะมีสภาวะอารมณ์ที่ดีขึ้นเมื่อรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับยาที่ใช้รักษาอาการโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
8. ประโยชน์ในการลดอาการ PMS หรืออาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง โดยการรับประทานสารสกัดใบแปะก๊วยช่วยให้อาการกดเจ็บที่เต้านมและอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการก่อนมีประจำเดือนรุนแรงน้อยลง
นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่าการรับประทานสารสกัดจากแปะก๊วยเป็นประจำติดต่อกัน 6 เดือน ช่วยให้ผู้ชายที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศดีขึ้นมากถึง 50% และช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังองคชาตได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
9. ใบแปะก๊วย (Ginkgo) มีส่วนช่วยบรรเทาความกังวล โดยในต่างประเทศมีการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วย ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งรับประทานยาหลอก ซึ่งผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Extract) มีภาวะทางจิตใจที่ผ่อนคลายและอารมณ์คงที่มากกว่ากลุ่มที่ให้ยาหลอก
10. ป้องกันการสูญเสียการมองเห็น จากการศึกษาพบว่าการให้สารสกัดใบแปะก๊วย (95% เอธานอล) ทำให้การมองเห็นระยะยาวและลานสายตาดีขึ้น นอกจากนี้ประโยชน์ของสารสกัดใบแปะก๊วยยังช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานที่จอประสาทตาเสื่อมในระยะ
อ่านต่อ : ใบแปะก๊วย กับคุณประโยชน์ทางการแพทย์
ในปัจจุบันมีการนำเอาใบแปะก๊วยมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบแคปซูลเพื่อสะดวกในการรับประทานมากมายหลายยี่ห้อ บางยี่ห้อได้มาตรฐาน แต่บางยี่ห้อก็ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างมาก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงได้แนะนำวิธีการเลือกซื้อสารสกัดใบแปะก๊วยที่ถูกต้องโดยมีหลักดังต่อไปนี้
ในปัจจุบันมีการนำ สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo) มาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น นม กาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มสารสกัดจากใบแปะก๊วยบรรจุขวดพร้อมดื่ม ซึ่งถือได้ว่าสะดวกต่อการรับประทาน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ร่างกายจะได้รับสารสำคัญจากใบแปะก๊วยในปริมาณเท่าไหร่และเพียงพอต่อการดูแลสุขภาพหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ ประโยชน์ใบแปะก๊วย (Ginkgo) อย่างสูงสุด ควรเลือกรับประทานสารสกัดที่อยู่ในรูปแบบของแคปซูลนิ่มที่ได้มาตรฐานยาระดับสากล เพราะนอกจากจะง่ายต่อการรับประทานแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับสารสำคัญและคุณประโยชน์ของใบแปะก๊วยอย่างครบถ้วน …ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care
1. สถาบันการแพทย์แผนไทย
2. https://www.pobpad.com/แปะก๊วยและคุณประโยชน์
3. https://medthai.com/แปะก๊วย/
4. https://health.kapook.com/view126836.html
5. http://www.fic.ifrpd.ku.ac.th/fic/index.php/2016-04-26-06-50-20/food-news-main-menu-3/fic-food-news-menu/601-food2-20-08-2018
6. http://www.fic.ifrpd.ku.ac.th/