ไมเกรน (Migraine) อาการปวดหัวที่พบมากในวัยทำงาน ซึ่งต้องเผชิญกับความเครียดอยู่บ่อยครั้งและความเครียดก็เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้อาการดังกล่าวเกิดขึ้นได้ บางคนมีอาการ ปวดหัว ไมเกรน จนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังในที่สุด ซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
ยังสรุปไม่ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทและสมองสันนิษฐานว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง หรือการทำงานที่ไม่ปกติของหลอดเลือดภายในสมองทำให้เกิดการหดเกร็ง นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่เชื่อว่าอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกร่างกายมากระตุ้นสมองให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้
ในปัจจุบันวิธีการรักษาของแพทย์มีอยู่ 2 ประเด็นหลักคือ รักษาเพื่อบรรเทาปวดหัวขณะเกิดอาการและป้องกันไม่ให้เกิดรวมทั้งลดความถี่ในการเกิดให้น้อยลง
แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติช่วยลดการหดเกร็งกล้ามเนื้อของหลอดเลือดหรือคลายการหดเกร็งของหลอดเลือด เมื่อร่างกายได้รับแมกนีเซียมเพียงพอในแต่ละวัน จึงมีส่วนช่วยป้องกัน และบรรเทาความรุนแรง รวมทั้งลดความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรนได้
.
เมื่อ ปี 2015 มีผลวิจัยของการใช้แร่ธาตุแมกนีเซียมเพื่อรักษาอาการปวดหัวไมเกรนที่ตีพิมพ์ไว้ในวารสารทางการแพทย์ The Journal of Headache and Pain โดยมีการทดลองแบ่งคนที่ปวดหัวไมเกรนซึ่งมีความถี่ของการปวดมากกว่าเดือนละ 3 ครั้ง จำนวน 130 คน ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกใช้แร่ธาตุแมกนีเซียมในรูปแบบของอาหารเสริม (ร่วมกัน Co Q10 และ Riboflavin) เปรียบเทียบกับอีกกลุ่มที่ให้อาหารเสริมแบบหลอกๆ (ไม่มีแร่ธาตุใดๆ) เป็นเวลา 3 เดือน และติดตามผลอีก 4 สัปดาห์ ผลปรากฎว่ากลุ่มคนที่ได้รับแมกนีเซียมมีความถี่และระดับการปวดลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารเสริมหลอก
อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแมกนีเซียมในการป้องกันไมเกรนที่ไม่มีอาการออร่า โดยแบ่งผู้ป่วยปวดหัวไมเกรนจำนวน 30 คน ช่วงอายุ 20-55 ปี ที่มีความถี่ในการปวดอยู่ที่ 2-5 ครั้ง/เดือน ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกรับประทานแมกนีเซียมวันละ 600 มิลลิกรัม เป็นเวลา 3 เดือน และอีกกลุ่มรับประทานยาหลอก ผลพบว่ากลุ่มที่รับประทานแมกนีเซียมสามารถลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้อย่างมีนัยสำคัญ
.
นอกจากนี้ยังมีการเก็บสถิติของคนที่มีปวดหัวไมเกรนเป็นประจำพบว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีระดับแมกนีเซียมในร่างกายที่ต่ำกว่าคนปกติที่ไม่ปวด และยังมีการศึกษาชิ้นหนึ่งในต่างประเทศพบว่าการกินแมกนีเซียมเป็นประจำมีส่วนช่วยลดความถี่การปวดหัวลงได้ถึง 41.6 %
การศึกษาขนาดเล็กในคนวัยหนุ่มสาวที่เป็นไมเกรน พบว่าการเสริมสารสกัดจากใบแปะก๊วย 80 มก. (ร่วมกับคิวเท็น 20 มก. และแมกนีเซียม 300 มก.) วันละ 2 ครั้งพร้อมอาหาร เป็นเวลา 3 เดือน สามารถช่วยป้องกันหรือลดความถี่ในการเกิดไมเกรนได้ ข้อมูลอ้างอิง
.
ถึงแม้การรับประทานแมกนีเซียม (Magnesium) เพื่อป้องกันและลดความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรนจะมีความปลอดภัยกว่าการใช้ยา แต่การรักษาไมเกรนก็ควรอยู่ในความแนะนำของแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ นอกจากจะรับประทานแมกนีเซียมเพื่อป้องกันอาการปวดหัวแล้ว ควรต้องทำร่วมกับวิธีอื่นๆ ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นต้องหลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน ออกกำลังกายเป็นประจำ จึงจะช่วยให้อาการบรรเทาและลดความถี่ในการเกิดน้อยลง อ่านต่อเพิ่มเติม : แมกนีเซียม Magnesium แร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นสำหรับร่างกาย