เส้นเลือดขอด เป็นแล้วหายได้

เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังเสียความความยืดหยุ่น มีผลต่อแรงดันภายในหลอดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี จนเส้นเลือดขยายขึ้นมีลักษณะที่คดเคี้ยวและนูนออกมา เป็นเพราะมีเลือดสะสมมากจนเห็นได้ชัดเป็นสีม่วงและสีเขียวบริเวณน่องขา ขาพับ หรือต้นขานั้นเอง โดยส่วนใหญ่จะพบกับกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกิน และอาชีพที่ต้องยืนนานๆ หรือใส่ส้นสูงเป็นประจำ เช่น ครู พนักงานขาย พนักงานต้อนรับ แคชเชียร์ ช่างทำผม แอร์โฮสเตส เป็นต้น แต่อีกหนึ่งสาเหตุขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเพศหญิงอีกด้วย ดังนั้นผู้หญิงจึงเป็นเส้นเลือดขอดมากกว่าผู้ชาย และเป็นมากในผู้หญิงช่วงอายุ 20-30 ปี โดยเฉพาะผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีปริมาณของเลือดสูง ทำให้เกิดการตึงของหลอดเลือด ส่งผลให้ผนังกล้ามเนื้อหลอดเลือดคลายตัวจนลิ้นเปิดปิดเลือดอาจทำงานบกพร่อง

วิธีรักษา เส้นเลือดขอด (Varicose Veins)

1. การรักษาแบบประคับประคอง
   มักใช้ในผู้ป่วยเส้นเลือดขอดที่มีอาการไม่รุนแรง โดยการใส่ถุงน่องชนิดพิเศษ ที่มีระดับความแน่นแตกต่างกันไล่ระดับจากเท้าถึงต้นขา ได้เพียงแค่ลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดขอดแต่ไม่สามารถทำให้หายได้ ปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดของการใช้ถุงน่องสำหรับเส้นเลือดขอดก็คือการลืมใช้หรือเพราะความไม่สะดวกในการสวมใส่ และไม่ควรใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะอาจเกิดภาวะขาดเลือดได้ ในบางคนอาจจะใช้วิธีการทายาลดเส้นเลือดขอดควบคู่ไปด้วย ซึ่งการทายานั้นเห็นผลช้าและใช้ระยะเวลานาน
2. การฉีดสารเคมีเข้าเส้นเลือดขอด
   วิธีนี้รักษากับผู้ป่วยที่มี เส้นเลือดขอด ขนาดเล็กถึงปานกลาง โดยใช้เวลา 15-30 นาที เป็นการทำให้เส้นเลือดขอดเกิดการอักเสบเพียง 2-3 สัปดาห์ โดยร่างกายจะมีกลไกในการจัดการทำลายเส้นเลือดขอดและค่อยๆ จางลงแล้วหายไป และกลับมาฉีดซ้ำอีกทุกๆ 4-6 สัปดาห์ หลังจากการฉีดแพทย์จะให้ใส่ถุงน่องชนิดพิเศษเส้นเลือดขอดที่มีการไล่ระดับความแน่นแตกต่างกัน
3. การผ่าตัดทางการแพทย์
   โดยในปัจจุบันนี้การผ่าตัดเส้นเลือดขอดมี 3 รูปแบบ ได้แก่ การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดด้วยการเจาะรู และการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง การผ่าตัดทั้งสามแบบต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ป่วยเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อประเมินการรักษา ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่เตรียมตัวก่อนเข้าผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลนาน1-2 สัปดาห์ และยังคงต้องคอยให้แพทย์ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการผ่าตัดนี้เป็นผลให้ผู้ป่วยมีรอยแผลเป็นได้ ดังนั้นการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้น เป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่สูงมาก จึงเหมาะแก่ผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดขอดรุนแรงเท่านั้น
4. การแก้ปัญหาจากภายในด้วยสารสกัดเมล็ดองุ่น
   สารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีตัวสารสำคัญอย่าง ‘โอลิโกเมอริก โปรแอนโธไซยานิดิน’ (OPC ; Oligomeric proanthocyanidins) มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และวิตามินอี 50 เท่า ด้วยคุณประโชยน์ของการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นคือ มีผลให้ เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตด้วยการยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจนของผนังหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ มีผลการศึกษาทางการแพทย์ ได้สรุปไว้ว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น โดยมี โอลิโกเมอริก โปรแอนโธไซยานิดิน (OPC ; Oligomeric proanthocyanidins) เข้มข้น 95% หรือปริมาณ 150 -300 มก.ต่อวัน โดยทานต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน พบว่าหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ทั้งหลอดเลือดดำและเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้นทำให้อาการเส้นเลือดขอดก็ดีขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้การดูแลจากภายในสู่ภายนอกสามารถทำได้ด้วยตัวเองและยังสะดวกมากสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา ถึงแม้ปัญหาเส้นเลือดขอดไม่ได้ร้ายแรงแต่ต้องใส่ใจดูแลและรู้วิธีการป้องกัน ดังนั้นหากเป็นเส้นเลือดขอดอาการรุนแรงขึ้น ควรพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อทำการดูแลรักษาต่อไป…ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care