ประโยชน์ของ แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) พร้อมวิธีรับประทาน

ลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน
ประโยชน์ แอปเปิลไซเดอร์ Apple Cider Vinegar

แอปเปิลไซเดอร์ เป็นน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลที่บรรดาคนรักสุขภาพรู้จักกันดี ซึ่งมี ประโยชน์ ต่อการควบคุมน้ำหนัก และ ช่วยในการทำงานของลำไส้ อีกทั้งยังมีสรรพคุณจากวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน ถึงแม้ว่ารสชาติเปรี้ยวและกลิ่นฉุนขึ้นจมูก อาจทำให้ใครหลายคนรับประทานได้ยาก แต่ในปัจจุบันนี้ แอปเปิลไซเดอร์ มีให้เลือกรับประทานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำส้มสายชูรสเปรี้ยว แบบเม็ด หรือแบบเยลลีกัมมี ที่รสชาติอร่อยและอิ่มท้องได้นาน จึงช่วยให้รับประทานได้ง่ายและได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

Apple Cider Vinegar หรือ แอปเปิลไซเดอร์ คืออะไร 

แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider) หรือ แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา (Apple Cider Vinegar) คือ น้ำส้มสายชูที่มีการผลิตจากผลแอปเปิลสด มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นเฉพาะตัว จากการผ่านกรรมวิธีการบ่มรวมกับยีสต์จนเกิดกรดน้ำส้มหรือกรดอะซิติก (Acetic Acid) นอกจากนี้ในแอปเปิลไซเดอร์ยังมีแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น โพแทสเซียม (Potassium) แคลเซียม (Calcium) ธาตุเหล็ก (Iron) โพลีฟีนอล (Polyphenols) ฯลฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ จึงมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการเผาผลาญ และ ขับของเสียออกจากร่างกาย อีกทั้งยังเป็น ตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดีอย่างโพรไบโอติก (Probiotic) ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย 

แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) มีกี่ชนิด

  • Filtered Apple Cider Vinegar แอปเปิลไซเดอร์แบบกรอง เป็นน้ำส้มสายชูหมักที่ผ่านการกรองเพื่อเอาตะกอนออก ทำให้มีลักษณะใส นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและการทำอาหาร เนื่องจากไม่มีตะกอนและมีความสม่ำเสมอ
  • Unfiltered Apple Cider Vinegar แอปเปิลไซเดอร์แบบไม่กรอง มีตะกอนซึ่งประกอบไปด้วยเอนไซม์ แร่ธาตุ และสารอาหารที่เกิดจากกระบวนการหมัก ถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าแบบกรอง
  • Pasteurized Apple Cider Vinegar แอปเปิลไซเดอร์แบบพาสเจอร์ไรส์  ผ่านการพาสเจอร์ไรส์เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เก็บรักษาได้นาน แต่ก็ทำให้สูญเสียเอนไซม์และแบคทีเรียที่มีประโยชน์
  • Raw Apple Cider Vinegar แอปเปิลไซเดอร์แบบไม่พาสเจอร์ไรส์ น้ำส้มสายชูหมักแบบดิบที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ จึงยังคงมีตะกอนและสารอาหารครบถ้วน นิยมใช้ในการดูแลสุขภาพและการรักษาแบบธรรมชาติ
  • Organic Apple Cider Vinegar แอปเปิลไซเดอร์แบบออร์แกนิก ทำจากแอปเปิลที่ปลูกแบบออร์แกนิก ไม่มีการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในกระบวนการผลิต โดยมักจะไม่กรองและไม่พาสเจอร์ไรส์
  • Apple Cider Vinegar Tablets or Capsules แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ดหรือแคปซูล เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการอัดแอปเปิลไซเดอร์ให้เป็นเม็ดหรือบรรจุในแคปซูล เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติของน้ำส้มสายชูแต่ยังต้องการประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • Apple Cider Vinegar Gummy แอปเปิลไซเดอร์แบบกัมมีหรือเยลลี่แห้ง เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการพัฒนาแอปเปิลไซเดอร์ให้อยู่ในรูปแบบของกัมมีหรือเยลลี่แห้ง และเพิ่มส่วนประกอบอื่น เช่น สารให้ความหวาน กลิ่น รสชาติ วิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติของน้ำส้มสายชู และผู้ที่ต้องการความสะดวกในการรับประทาน

5 ประโยชน์ จากแอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar)

ในแอปเปิลไซเดอร์อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ที่แตกต่างกันไปตามกระบวนการบ่มหรือการเติมส่วนผสมลงในผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น เพกทิน กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินบี โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก เป็นต้น โดยแอปเปิลไซเดอร์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้

1. ควบคุมน้ำหนักและลดไขมันในเลือด

จากผลการศึกษาขนาดเล็กระบุว่า ผู้ที่ดื่มแอปเปิลไซเดอร์จะรู้สึกอิ่มไวขึ้น จึงอาจมีส่วนช่วยให้รับประทานอาหารน้อยลง และส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก จากคุณสมบัติของกรดอะซิติกที่มีฤทธิ์ยับยั้งความอยากอาหารและช่วยลดไขมันในเลือดได้เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ดื่ม อย่างไรก็ตาม การป้องกันโรคอ้วนที่ดีในระยะยาวควรเน้นการควบคุมอาหาร โดยลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลในปริมาณมาก ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอ

อ่านต่อ : ระบบเผาผลาญพัง ตัวการสำคัญทำลดหุ่นไม่ได้ผล

2. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เนื่องจากคุณสมบัติของกรดอะซิติกในแอปเปิลไซเดอร์นั้นส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีผลงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การรับประทานกรดอะซิติกจากน้ำส้มสายชูหมักระหว่างมื้ออาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง ช่วยให้การตอบสนองของฮอร์โมนอินซูลินดีขึ้นและส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อย่างไรก็ตามการศึกษาวิจัยนี้ยังมีอยู่จำกัด ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ 

3. ช่วยให้อิ่มนาน

แอปเปิลไซเดอร์มีประโยชน์ต่อการควบคุมความหิว เพราะมีใยอาหารชนิดละลายน้ำหรือ เพกทิน (Pectin) เมื่อรับประทานร่วมกับน้ำตาลและกรดในปริมาณที่เหมาะสม จะเกิดเป็นเจลที่อ่อนนุ่ม จึงช่วยให้อิ่มได้นาน ไม่หิวบ่อย ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก น้ำตาลและไขมันในเลือดได้อีกด้วย

4. ช่วยในการย่อยอาหาร

อีกหนึ่งประโยชน์ของแอปเปิลไซเดอร์ คือ ลดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย เนื่องจากในแอปเปิลไซเดอร์นั้นมีกรดมาลิก (Malic acid) และ กรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) ที่พบตามธรรมชาติของแอปเปิล ซึ่งมีส่วนช่วยให้กระบวนการย่อยโปรตีนและไขมันทำงานได้ดี จึงช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อยได้ ซึ่งการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ก่อนอาหารมื้อหนักหรืออาหารย่อยยากจะช่วยในการย่อยอาหารได้ดีขึ้น 

5. ประโยชน์ต่อสุขภาพผิว 

ประโยชน์ของแอปเปิลไซเดอร์ ช่วยในการทำความสะอาดผิวจากภายนอกด้วย ด้วยความเป็นกรดจากธรรมชาติและวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่ดีต่อสุขภาพผิวจึงมักนำมาใช้ในการดูแลผิวด้วย เช่น การใช้แอปเปิลไซเดอร์ผสมเจือจางกับน้ำสะอาดเป็นโทนเนอร์ เพื่อทำความสะอาดและปรับสภาพผิวหน้า หรือใช้ผสมเจือจางกับน้ำสะอาดแล้วนำมาหมักผมเพื่อดูแลหนังศีรษะและป้องกันรังแค เป็นต้น

ประโยชน์ แอปเปิลไซเดอร์ วิธีกิน

วิธีรับประทาน ‘แอปเปิลไซเดอร์’ ให้ได้ ‘ประโยชน์’

Apple Cider Vinegar ควรรับประทานให้ถูกวิธี ซึ่งแต่ละแบบจะมีวิธีและปริมาณการรับประทานที่แตกต่างกันออกไป 

  • แอปเปิลไซเดอร์แบบน้ำหมัก
    – ใช้แอปเปิลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำดื่มสะอาด โซดาหรือน้ำผลไม้ตามชอบ ปริมาณ 200 – 240 มิลลิลิตร หากต้องการควบคุมน้ำหนักควรงดน้ำรสชาติหวาน (ไม่ควรทานแอปเปิลไซเดอร์แบบเพียวๆ เพราะมีความเป็นกรด)
  • แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ด
    – สำหรับผู้ที่ต้องการปรับสมดุลลำไส้อาจเลือกรับประทาน 900 – 1,800 มิลลิกรัม/วัน
    – สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอาจเลือกรับประทาน 1,350 – 2,700 มิลลิกรัม/วัน
  • แอปเปิลไซเดอร์แบบเยลลีกัมมี 
    – สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักแนะนำให้รับประทาน 3,000 มิลลิกรัม/วัน ครั้งละ 2 ชิ้น วันละ 3 ครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร (ไม่ควรเกิน 6 เม็ด/วัน) ทั้งนี้ควรดื่มน้ำสะอาด 1 แก้ว ตามทุกครั้งหลังรับประทาน

ข้อแนะนำการรับประทาน

  • ควรรับประทานช่วงท้องว่าง หรือ ก่อนมื้ออาหาร 30 นาที จะช่วยควบคุมความหิวและลดความอยากอาหารได้
  • หากรับประทานแบบน้ำควรดื่มผ่านหลอดและบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทาน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนฟัน
  • สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติหรือกลิ่นฉุนของแอปเปิลไซเดอร์แบบน้ำหมักและต้องการควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้รับประทานแอปเปิลไซเดอร์แบบเยลลี่กัมมี เพราะมีรสชาติที่อร่อยและมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ใยอาหาร โฟเลต วิตามินบี 1 6 และ 12  ที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ และการขับถ่าย รวมถึงลดการกินจุบจิบระหว่างวัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักอีกด้วย
  • หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ในปริมาณมากหรือมีความเข้มข้นสูง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน

ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับการรับประทาน แอปเปิลไซเดอร์ ฟรี

จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ ที่หลากหลายของ แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) นั้นนอกจากจะส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากเลือกรับประทานในปริมาณอย่างเหมาะสมและในปริมาณที่พอเหมาะ ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การดูแลสุขภาพในภาพรวมมีประสิทธภาพมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง
  1. https://www.pobpad.com/แอปเปิ้ลไซเดอร์-กับข้อส
  2. https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0430/pectin-เพกทิน
  3. https://hdmall.co.th/c/7-benefits-apple-cider
  4. https://medthai.com/แอปเปิ้ลไซเดอร์/
  5. ฐานข้อมูล MEGA We care
อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

ลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน

‘ระบบเผาผลาญพัง’ ตัวการสำคัญทำลดหุ่นไม่ได้ผล

เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

7 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเวย์โปรตีน

เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ทุกเรื่องเวย์โปรตีนที่คุณต้องรู้