จากข้อมูลของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย ระบุว่า ถ้านำเอาสถิติ 10 ปีที่ผ่านมา มาพิจารณาจะพบว่าปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า โดยพบในเด็กมากถึง 38% และผู้ใหญ่ 20% ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดโรคมาจากกรรมพันธุ์ และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เช่น การเพิ่มขึ้นของปริมาณฝุ่นควัน และอุตสาหกรรม รวมถึงสิ่งปลูกสร้างๆ ต่างๆ
โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากภาวะตอบสนองของร่างกายที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่น PM 2.5 ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาหาร และมลภาวะต่างๆ โดยอาการภูมิแพ้ที่พบมากที่สุดคือ ‘ภูมิแพ้อากาศ’ ซึ่งพบถึง 20% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และมักจะเกิดร่วมกับภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่กระทบต่อการใช้ชีวิตปกติประจำวัน หากไม่ได้รักษาอย่างจริงจังอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็น ไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ เรียนและทำงานได้ไม่เต็มที่ และเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ เป็นต้น
อาการภูมิแพ้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกอวัยวะในร่างกาย และยังสามารถมีอาการร่วมกันได้ในหลายระบบของร่างกาย โดยโรคภูมิแพ้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
การรักษาอาการภูมิแพ้สามารถทำได้ทั้งการรับประทานยา การพ่นยาในจมูก หรือการฉีดวัคซีนภูมิแพ้เป็นประจำ แต่ถึงอย่างไรคนที่เป็นภูมิแพ้จะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งดูแลตัวเองไม่ให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมกับสิ่งที่จะกระตุ้นการเกิดโรค เพื่อลดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ก็สามารถช่วยให้อาการของโรคบรรเทาลง และหายขาดได้
อ่านต่อ : ภูมิแพ้เรื้อรัง เรื่องสำคัญที่ดูแลได้
วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จึงจำเป็นต้องได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป วิตามินซีพบมากในผักและผลไม้สด เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะเขือเทศ บร็อคโคลี ปวยเล้ง เป็นต้น แต่วิตามินซีเป็นวิตามินที่เสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ แสง ความร้อน และความชื้น ดังนั้นร่างกายควรได้รับวิตามินที่เพียงพอในแต่ละวัน การรับประมาณวิตามินเสริมจึงช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างครบถ้วน เมื่อรับประทานวิตามินซี 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง กระตุ้มการทำงานของเมล็ดเลือดขาวให้เป็นปกติ ทำให้ป้องกันหวัดและภูมิแพ้ได้
อีกหนึ่งวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ คือ วิตามิดีที่ไม่ใช่แค่เพียงดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเมล็ดเลือดขาว เพื่อตอบสนองต่อเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบ
จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า การรับประทานวิตามินดี 3 ในปริมาณสูงจะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิต้านทาน ซึ่งวิตามินดี 3 สามารถได้จากแสงแดดในธรรมชาติและอาหารที่รับประทานเข้าไป เช่น ไข่แดง ตับ นม เนย ปลาซาดีน และปลาทูน่า เป็นต้น หรือเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินดี 3 นับเป็นทางเลือกที่ดีในการบำรุงร่างกาย
แร่ธาตุสังกะสี หรือ ซิงค์ เป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพทุกๆคน โดยเฉพาะคนที่มักเป็นภูมิแพ้อยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะ ระบบภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ในร่างกายนั้น ทำงานผิดปกตินั่นเอง ซิงค์ หรือแร่ธาตุสังกะสี จึงมีส่วนช่วยให้ระบบภุมิคุ้มกันนั้นทำงานได้ปกติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะควบคุมการทำงานเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
แร่ธาตุสังกะสีส่วนใหญ่พบอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ หอยนางรม ปลา ไข่ นม และธัญพืชต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดี ใน 1 วัน แนะนำให้รับประทานประมาณ 10-50 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นกับปัญหาสุขภาพของแต่ละคน (อ่านเกี่ยวกับซิงค์เพิ่มเติม คลิก)
หลายๆ คนอาจเคยได้ยินหรือได้รู้จักกับโพรไบโอติกมาบ้างแล้ว ซึ่งมีความสามารถในการ แก้โรคภูมิแพ้ ได้ด้วยเช่นกัน โดยโพรไบโอติกมีส่วนช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยสร้างสมดุลของเชื้อที่ดีให้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้โพรไบโอติกส์สามารถกำจัดไวรัส และแบคทีเรียรวมถึงควบคุมการอักเสบ โดยร่างกายสามารถได้โพรไบโอติกส์จากอาหารที่รับประทาน เช่น กิมจิ คอทเทจ ชีส ซาวร์เคราต์ มิโสะ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เทมเป้ พาร์มีซานชีส โยเกิร์ต ส่วนอาหารที่คนไทยหากินง่าย คือ ข้าวหมาก ผักกาดดอง ถั่วเน่า และนมเปรี้ยว
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จำเป็นต้องดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นพิเศษ เพราะหากร่างกายอ่อนแอจะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้ การดูแลสุขภาพต้องเริ่มที่ตัวเอง แม้จะไม่ใช่โรคที่รักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถป้องกันไม่ให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้ ด้วยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้กับตัวเอง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้
1. สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย
2. สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
3. ฐานข้อมูลเรื่องสารอาหารจากบริษัท MEGA Lifescience
4. โรงพยาบาลกรุงเทพ
5. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล