วิตามินซี แบบเม็ด แบบชง หรือแบบขวดแช่ เลือกกินแบบไหนดีกว่ากัน?

ภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี ควรเลือกกินแบบไหน

วิตามินซี (Vitamin C) หนึ่งในวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายและจำเป็นต้องได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ เพราะร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหารอื่นๆ ซึ่งวิตามินซีธรรมชาติพบมากในผักและผลไม้ เช่น พริกหวาน บรอกโคลี ฝรั่ง ส้ม กีวี ฯลฯ

แต่ในยุคปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ รวมถึงปัญหาความเครียดรอบตัว อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้พฤติกรรมการกินอาหารเปลี่ยนไปและได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเร่งให้ระดับวิตามินซีในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว จึงมีวิตามินซีเสริมหลากหลายรูปแบบให้เลือกกินเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคและภาวะสุขภาพของคนในยุคปัจจุบัน

วิตามินซี (Vitamin C) มีกี่ชนิดและมีความแตกต่างกันอย่างไร?

เนื่องจากวิตามินซีจะถูกดูดซึมได้ง่ายที่ลำไส้เล็กก่อนถูกนำพาไปยังเนื้อเยื่อและน้ำในส่วนต่างๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือด จึงมีการผลิตวิตามินซีออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ง่ายต่อการดูดซึมและการออกฤทธิ์ที่ได้ประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. วิตามินซีเม็ด

วิตามินซีในรูปแบบเม็ด สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

  • แบบอัดเม็ด โดยทั่วไปมีปริมาณวิตามินซีตั้งแต่ 25 – 1,000 mg. ซึ่งมีทั้งแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release ที่ทำให้วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น และ ระคายเคืองกระเพาะอาหารน้อยลง
  • แบบแคปซูล มีปริมาณวิตามินซี 500 mg. โดยมีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม สมารถกลืนได้ง่ายกว่าแบบอัดเม็ด
  • แบบเม็ดอม มีปริมาณวิตามินตั้งแต่ 25 – 500 mg. เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ไม่ชอบกลืนเป็นเม็ด
  • แบบเม็ดฟู่ มีปริมาณวิตามินซี 500 และ 1,000 mg. ใช้ละลายในน้ำและดื่มได้ทันที เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึมและการกลืน

2. วิตามินซีแบบชง

วิตามินซีแบบชงหรือแบบผงละลายน้ำสำหรับชงดื่ม โดยวิตามินซีรูปแบบนี้เป็นแคลเซียมแอสคอร์เบท 100% และไม่มีความเป็นกรด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินวิตามินซีแบบเม็ดและผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

3. วิตามินซีแบบขวดแช่

วิตามินซีแบบแช่ขวดพร้อมดื่ม ส่วนใหญ่ให้ปริมาณวิตามินซีประมาณ 120 mg. มักมีการแต่งสารเพิ่มความหวาน กลิ่นและสีเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งร่างกายอาจไม่ได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งวิตามินซีโดยธรรมชาติแล้วไม่มีความทนต่อแสง เมื่อบรรจุอยู่ในขวดแก้วสีใสอาจทำให้คุณประโยชน์ของวิตามินซีถูกลดทอนลงไป

ประโยชน์ของ วิตามินซี

วิตามินซี ควรเลือกกินแบบไหนดี?

หากจะบริโภควิตามินซีให้ได้ประโยชน์มากที่สุด สิ่งสำคัญคือ การกินในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายดูดซึมและนำประโยชน์ของวิตามินซีไปใช้ได้อย่างสูงสุด เนื่องจากการดูดซึมของวิตามินซีมีจุดอิ่มตัวและขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป หากกินเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึมร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมไปใช้เพิ่มได้ เช่น การกินวิตามินซีครั้งละ 1,000 -1,500 mg. ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีได้เพียง 50% เท่านั้น จึงควรแบ่งกินวิตามินซีในปริมาณที่ต่ำกว่า 1,000 mg.  วันละ 2-3 ครั้ง จะดูดซึมได้ดีกว่าการกินปริมาณมากในครั้งเดียว

นอกจากนี้ ยังควรคำนึงถึงชนิดหรือรูปแบบของวิตามินซี เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ง่ายขึ้น ลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และ ความต้องการประโยชน์ของวิตามินซี ยกตัวอย่างเช่น

  1. ผู้ที่ต้องการเสริมภูมิต้านทาน
    หากต้องการเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันโรคหวัดหรือต้านสารอนุมูลอิสระ ควรเน้นไปที่ปริมาณของวิตามินซีตั้งแต่ 1,000 – 3,000 mg. ต่อวัน สามารถเลือกกินได้ทั้งแบบเม็ดและแบบชง โดยแบ่งกินพร้อมอาหาร 3 มื้อ เช้า กลางวัน และเย็น เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดีขึ้น
  2. ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ
    ในทางศาสตร์ชะลอวัยแนะนำให้กินวิตามินซีวันละ 2,000 mg. ต่อวัน เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรงและดูกระจ่างใสขึ้น สามารถเลือกกินได้ทั้งแบบเม็ดและแบบชง โดยอาจเลือกกินวิตามินซี 1,000 mg. แบ่งกิน 2 ครั้งต่อวัน พร้อมอาหาร 2 มื้อ
  3. ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีปัญหาในการดูดซึม
    ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีปัญหาในการดูดซึมวิตามินซี ควรเลือกกินวิตามินซีในรูปแบบละลายน้ำ ได้แก่ วิตามินซีเม็ดฟู่ วิตามินซีแบบชง เพราะลำไส้สามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย รวมถึงไม่มีความเป็นกรดจึงไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  4. เด็กและผู้ที่ไม่ชอบกลืนแบบเม็ด
    สำหรับเด็กที่ต้องการเสริมวิตามินซีอาจเลือกกินวิตามินซีแบบอม แบบเม็ดฟู่หรือแบบชง แต่แบบเม็ดอมอาจทำให้ฟันกร่อนได้ เพราะกรดในวิตามินซีอาจทำลายสารเคลือบฟันหรือหากมีส่วนผสมของน้ำตาลอาจเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้

ประโยชน์ของวิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี (Vitamin C) คือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ โดยจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการเสริมภูมิต้านทาน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ภายในร่างกาย บรรเทาอาการจากการติดเชื้อไวรัสและมีส่วนช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสขึ้น ดังนี้

  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    เนื่องจากร่างกายของเรามีเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่เป็นแอนติบอดี้ (Antibody) ที่คอยกำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกายและสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพื่อป้องกันการป่วยโรคเดิมซ้ำ ซึ่งวิตามินซีเป็นสารสำคัญที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกาย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงช่วยลดความรุนแรงและการติดเชื้อชนิดเดิมได้ อีกทั้งวิตามินซียังสามารถป้องกันความเสียหายของเม็ดเลือดขาวที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
  • ชะลอการเสื่อมของเซลล์ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ
    วิตามินซี คือ หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต้านและลดระดับของสารอนุมูลอิสระลงได้ จึงช่วยลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังและปัญหาสุขภาพทั้งที่รุนแรงและไม่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เป็นต้น
  • ป้องกันและบรรเทาโรคหวัด
    หากร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพออยู่เสมอจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้นและป้องกันการเกิด โรคหวัดได้ รวมถึงช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการหวัดและย่นระยะเวลารักษาโรคหวัดให้หายเร็วขึ้นได้ หากกินวิตามินซีร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • วิตามินซีช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
    จากการศึกษาพบว่า วิตามินซีอาจช่วยสร้างเกราะและเสริมความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวต้านทานต่อแสง UV ในแสงแดดได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยให้บาดแผลสมานตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ข้อสรุป การเลือกกินวิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี (Vitamin C) นอกจากจะเป็นอาหารเสริมที่ช่วยป้องกันการขาดวิตามินซีแล้วยังมีคุณสมบัติเป็นยา โดยวิตามินซีปริมาณ 1,000 mg. จะถูกจัดเป็นยาที่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน บำรุงผิวพรรณ และเป็นต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งการเลือกชนิดหรือรูปแบบของวิตามินซีให้เหมาะกับตนเอง ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซีเม็ด วิตามินซีแบบชงหรือแบบผง ฯลฯ จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่และง่ายต่อการบริโภคในชีวิตประจำวัน

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

หวัด ภูมิแพ้

ยาแก้แพ้ กับเรื่องที่ต้องรู้

หวัด ภูมิแพ้

รคภูมิแพ้แก้ได้ เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็คิดว่ายาก

ภูมิคุ้มกัน

หลักการกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาโรคโควิด-19 และโรคหวัด