อาการเจ็บคอ เป็นอาการที่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกระคายเคืองในลำคอ และรู้สึกเจ็บคอมากขึ้นเวลากลืน เนื่องจากมีการอักเสบบริเวณช่องคอ เช่น เนื้อเยื่อช่องคอ ต่อมทอนซิล เพดานอ่อน โคนลิ้น กล่องเสียงเป็นต้น สาเหตุอาจเกิดได้จากการอักเสบทั้งที่ติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บคอที่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดก็คือ อาการดังกล่าวไม่จำเป็นเกิดขึ้นจากการเป็นหวัดเสมอไป เพราะอาการเจ็บจอสามารถเกิดได้ทั้งการติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อได้เช่นกัน ซึ่งมีการแบ่งสาเหตุของการอาการเจ็บคอแบ่งเป็นสาเหตุหลัก อยู่ 2 สาเหตุด้วยกัน ได้แก่
1. สาเหตุของอาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อ ในระบบทางเดินหายใจ
อาการเจ็บคอสามารถเกิดได้จากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคคออักเสบ โรคกล่องเสียงอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบเป็นต้น และมักมีอาการแดงที่ช่องคอเล็กน้อย ทำให้เกิดอาการอักเสบและเจ็บคอไม่มาก นอกจากนี้มีไข้ มีน้ำมูกใส คัดจมูกบ้าง ทั้งนี้อาการเจ็บคอที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสจะสามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ โดยโรคคออักเสบจากการติดเชื้อ เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอที่พบได้บ่อยที่สุด
อาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคต่อมทอนซิลอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ โรคคอตีบส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บคอ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล บริเวณผนังลำคอด้านหลัง ลิ้นไก่ จะมีอาการอักเสบบวมแดงจนทำให้รู้สึกเจ็บคอมากกว่า
2. สาเหตุของอาการเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
อาการเจ็บคอในลักษณะนี้ มักเกิดจากการพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ไปกระตุ้น ให้เกิดอาการเจ็บคอขึ้น หรือเกิดจากสิ่งแปลกปลอม เช่นฝุ่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ การใช้เสียงที่ติดต่อกันนานๆ หรือการตะโกน จนทำให้เกิดการอักเสบและนำไปสู่การเจ็บคอในที่สุด นอกจากนี้ยังเกิดจากโรคกรดไหลย้อน ทำให้เยื่อบุช่องคอเกิดการอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บคอเป็นๆ หายๆ ได้
อาการไอ เป็นกลไกการตอบสนองอย่างหนึ่งของร่างกาย เริ่มต้นจากการที่มีสิ่งกระตุ้นการไอหรือมีสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้ระคายเคืองในบริเวณระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โพรงจมูก กล่องเสียง หลอดลม หรือปอด ขณะที่ในอากาศมีสารก่อความระคายเคืองที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจปะปนอยู่ เช่น ฝุ่น ควัน มลภาวะในอากาศ ขนสัตว์ การสูบบุหรี่ ละอองเกสร ไอระเหยจากสี น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีกลิ่นฟุ้ง เชื้อโรค เชื้อรา เชื้อไวรัสต่างๆ ร่างกายจึงมีวิธีกำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปเพื่อลดอันตรายของทางเดินหายใจลง
โดยปกติระบบทางเดินหายใจจะมีเยื่อเมือกที่ผลิตของเหลวขึ้นมาช่วยเพิ่มความชุ่มให้กับทางเดินหายใจ แต่เมื่อเกิดการติดเชื้อร่างกายจะสร้างของเหลวมากขึ้นจนกลายเป็นเสมหะ เพื่อช่วยดักจับเชื้อโรคหรือสิ่งระคายเคืองออกไป โดยการไอจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเสมหะในทางเดินหายใจและปอดออกมานั่นเอง ดังนั้นจึงทำให้บางคนมีอาการไอมีเสมหะร่วมด้วย
1. ไอแห้ง
จะมีอาการคัน ระคายเคืองภายในลำคอ และไม่มีสารคัดหลั่งอื่นๆ หรือเสมหะออกมาก
2. ไอมีเสมหะ
จะมีของเหลวหรือเมือกเหนียวออกมา โดยของเหลวนี้จะเรียกว่า เสมหะ ซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างออกมาเพื่อช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ติดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจนั้นออกมา
แต่ไม่ว่าจะเป็นการไอในลักษณะใด เมื่อเริ่มมีอาการไอ มักจะมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย เป็นอาการเจ็บหรือรู้สึกระคายเคืองในลำคอ เพราะมีการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณลำคอ เช่น ต่อมทอนซิล เพดานอ่อน กล่องเสียง หรือโคนลิ้น เป็นต้น ส่งผลทำให้ยากต่อการกลืนน้ำหรืออาหารเพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ
โดยทั่วไปอาการไอและเจ็บคอสามารถหายได้เองไม่เกิน 3 สัปดาห์ โดยการดูแลลำคอเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากอาการไอและเจ็บคอรบกวนการใช้ชีวิต ยังมีวิธีที่จะช่วยรักษาและบรรเทาอาการแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ได้แก่
1. ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ
ควรเป็นน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุลำคอที่กำลังอักเสบ และยังช่วยลดอาการเจ็บคอและระคายคอ นอกจากนี้ความร้อนจากน้ำอุ่นยังช่วยละลายเสมหะได้ด้วย หรือการจิบน้ำอุ่นผสมน้ำผึ้งและมะนาวทำให้รู้สึกชุ่มคอและเป็นวิธีแก้เจ็บคออีกหนึ่งวิธีที่สำคัญที่สุด
2. เพิ่มความชื้นในอากาศ
การนอนห้องแอร์หรืออยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ยิ่งทำให้มีอาการไอกำเริบมากขึ้น เนื่องจากภายในห้องมีความชื้นต่ำ อากาศแห้งสูง จึงกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของหลอดลมจึงเกิดอาการไอมากขึ้น ดังนั้นจึงควรรักษาระดับความชื้นภายในห้องอย่างเหมาะสม โดยเลือกใช้เครื่องทำความชื้น ก็สามารถช่วยให้ระบบทางเดินหายใจชุ่มชื้นขึ้นได้
3. หลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ
หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด มีฝุ่นละอองหรือมลพิษต่างๆ เพราะในสถานที่เหล่านี้มีสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองทางจมูกและลำคอ เมื่อสูดดมฝุ่น ควันเข้าไปจึงทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นไป ถ้าใครแพ้ฝุ่น แพ้ควันแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเอาไว้ จะสามารถช่วยลดและป้องกันไม่ให้หายใจเอาฝุ่น ควัน เข้าไปในร่างกาย
4. งดสูบบุหรี่หรือหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
สำหรับใครที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ แล้วมีอาการไอ การสูบบุหรี่นอกจากจะทำให้เกิดการระคายคอ เจ็บคอ ยังก่อโรคอื่นๆ อีกมากมาย และไม่ควรอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่
5. ยาบรรเทาอาการไอ ระคายคอ เจ็บคอ
วิธีแก้เจ็บคอ รักษาอาการไอหรือระคายคอนั้น มีทั้งยาที่ได้จากสารเคมีที่มีตัวยาเพื่อประสิทธิภาพการรักษาอาการไอ เช่น ออกฤกธิ์กดอาการไอ แต่มีข้อเสียซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียงในการใช้ยาได้อย่างอาการง่วงนอน เป็นต้น ดังนั้นมียาแก้ไอที่ได้จากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ช่วยให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการอ ระคายคอได้ดีไม่แพ้กัน
วัตถุดิบจากธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ มีหลากหลายชนิด เช่น น้ำผึ้ง สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ โพรโพลิส ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มิ้นต์ ใบไอวี่ เป็นต้น โดยมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสในลำคอ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอทำให้รู้สึกชุ่มคอเพิ่มขึ้นด้วย
ณ ปัจจุบันมียาบรรเทาอาการไออยู่หลายรูปแบบ ทั้งรูปแบบยาน้ำ ยาเม็ด ยาพ่นคอ ยาอม โดยแต่ละรูปแบบต่างมีสรรพคุณหรือความสะดวกที่แตกต่างกันไปและสามารถใช้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการไอ เจ็บคอให้หายเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการใช้ยาพ่นคอหรือสเปรย์เป็นอีกรูปแบบที่นิยมอย่างมาก เพราะใช้ง่าย ฉีดพ่นคอได้ตรงจุดได้ตรงจุด และพกพาสะดวก แต่ทั้งนี้หากเป็นสเปรย์พ่นคอที่มีส่วนผสมเป็นสมุนไพร 100% จะยิ่งเพิ่มความปลอดภัย สามารถใช้ได้บ่อยครั้งและต่อเนื่อง ซึ่งจะดีกว่าบางชนิดที่มีส่วนผสมของสารเคมี
1. สารสกัดจากดอกคาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์เป็นดอกไม้สมุนไพรในตระกูลเดียวกับเดซี่ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราในช่องปากและลำคอ มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ บวมแดง จึงช่วยลดอาการเจ็บคอได้ และยังลดอาการแพ้ระคายเคืองอันเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกคันคอ ระคายคอ และอาการไอ
2. โพรโพลิส
เป็นส่วนหนึ่งของรังผึ้ง มีส่วนช่วยลดอกการอักเสบ บวมแดงในลำคอ จึงสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเซื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้อย่างยาวนาน
3. น้ำผึ้ง
อีกหนึ่งของธรรมชาติที่อุดมด้วยสารอาหารต่างๆ มีสรรพคุณที่ดีมากมาย โดยเฉพาะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการหลอดลมอักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ไอมีเสมหะ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอทำให้รู้สึกชุ่มคอเพิ่มขึ้นด้วย
4. สารสกัดจากว่านหางจระเข้
พืชสมุนไพรที่รู้จักกันดี ซึ่งช่วยสมานแผล เพราะเมื่อเริ่มมีแผลในลำคอ จนทำให้รู้สึกแสบ ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยลดอาการเจ็บคอ และเพิ่มความชุ่มชื้นในลำคอ
5. สารสกัดจากรากชะเอมเทศ
พืชท้องถิ่นในประเทศแถบกลางของทวีปเอเชีย ที่มีสรรพคุณในการดึงเสมหะและขับเสมหะได้ดี ช่วยลดอาการไอระคายคออันมีสาเหตุจากการแพ้ และด้วยรสหวานของรากชะเอมเทศยังช่วยให้ชุ่มคอ พร้อมไปกับลดการอักเสบได้ด้วย
6. เปปเปอร์มิ้นต์
น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชสมุนไพร มีกลิ่นและรสชาติหอมเย็น ช่วยบรรเทาอาการไอ ระคายคอ ทำให้รู้สึกสดชื่นและชุ่มคอ อีกทั้งยังช่วยช่วยละลายเสมหะได้ดีอีกด้วย
7. ยูคาลิปตัส
สกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ช่วยบรรเทาอาการไอ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ต้านการอักเสบ ขยายหลอดลม และละลายเสมหะ ทำให้รู้สึกชุ่มคอและลดอาการคันระคายคอได้ดี
“ฉีดพ่น ตรงจุด” สมุนไพรพ่นคอในรูปแบบสเปรย์ จะช่วยให้สารสำคัญในสมุนไพรสัมผัสจุดที่มีอาการระคายเคืองในลำคอหรือช่องปากได้ตรงจุด ด้วยฤทธิ์ของสมุนไพรต่างๆ จึงมีส่วนช่วยในการสมานแผล เนื้อเยื่อต่างๆที่ช่องคอ และรู้สึกชุ่มคอ ส่งผลให้ช่วยบรรเทาลดอาการเจ็บคอ อาการไอ และระคายคอได้ดี
วิธีแก้เจ็บคอ เมื่อมีอาการเจ็บคอ ไอ ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ เพียงฉีดสเปรย์พ่นคอสมุนไพร 1-2 ครั้ง จะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและไอ ระคายคอ ให้ดีขึ้น และด้วยการเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจึงสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัย100% ไม่ทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองหรือการดื้อยา
ที่สำคัญอย่าละเลยที่จะดูแลตัวเองหากมีอาการเจ็บคอ และไอร่วมกับอาการเป็นไข้ ด้วยการเน้นเรื่องพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟู และสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. https://www.bangkokhospital.com/content/diagnosis-of-chronic-cough
2. https://www.pobpad.com/ไอมีเสมหะ-หยุดอาการกวนใ
3. https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/june-2020/chronic-cough
4. https://www.pobpad.com/ไอมีเสมหะ-สัญญาณบอกโรคแ
5. https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=327
7. https://www.pobpad.com/เจ็บคอ
8. https://www.sikarin.com/content/detail/342/กินอะไร-“ช่วยบรรเทา”-อาการเจ็บคอ
9. https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Sore-throat
รคภูมิแพ้แก้ได้ เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็คิดว่ายาก