ดูแลผิวหลังเลเซอร์ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ มีอะไรบ้าง?

ฝ้า กระ
ดูแลผิวหลังเลเซอร์ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำหลังเลเซอร์ผิว

การเลเซอร์ผิวหน้าเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งหลังการใช้พลังงานแสงจากเลเซอร์นั้นอาจส่งผลให้ผิวหนังมีความบอบบางกว่าปกติ ระคายเคืองง่าย และไวต่อสิ่งแวดล้อม หลังเลเซอร์หน้าอาจมีข้อห้ามหรือข้อแนะนำในการดูแลผิวหลังเลเซอร์หลายประการ จึงต้องมีการดูแลผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเพิ่มขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงจำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดดมากเป็นพิเศษ

หลักการทำงานของเลเซอร์ต่อผิวหนัง

เลเซอร์ (Laser) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงความเข้มสูงในการรักษาปัญหาผิวพรรณต่างๆ โดยหลักการทำงานของเลเซอร์นั้นจะส่งพลังงานแสงไปยังผิวหนัง ซึ่งพลังงานแสงนี้จะถูกดูดซับโดยเป้าหมายเฉพาะ เช่น เม็ดสีผิว หลุมสิว รอยสัก หรือเซลล์ขน ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ส่งผลต่อเซลล์ผิวหนังเหล่านั้น โดยการทำงานของเลเซอร์มีหลักๆ ดังนี้

  1. การปล่อยพลังงานแสง เครื่องเลเซอร์จะปล่อยแสงที่มีความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่ต้องการรักษา 
  2. การดูดซับพลังงาน พลังงานแสงที่ถูกปล่อยออกมาจะถูกดูดซับโดยเป้าหมายที่ต้องการทำลาย เช่น เม็ดสีผิว เซลล์ขน ฯลฯ
  3. เมื่อพลังงานแสงถูกดูดซับ จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้เป้าหมายถูกทำลาย หรือเกิดความร้อนสูงขึ้นจนเซลล์ถูกทำลาย
  4. หลังจากการทำเลเซอร์ ร่างกายจะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน สีผิวดูอ่อนลง และอ่อนเยาว์ขึ้น

ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ในการแก้ปัญหาผิว

เทคนิคการทำเลเซอร์ในปัจจุบันมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์หน้า เลเซอร์กระหรือจุดด่างดำ เลเซอร์สิว เลเซอร์ขน ตลอดจนเลเซอร์ยกกระชับผิว ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทำเลเซอร์ โดยสามารถแบ่งประเภทของเลเซอร์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1. เลเซอร์แบบไม่มีแผล 

การเลเซอร์แบบไม่มีแผล (Non-ablative Laser) คือ กลุ่มเลเซอร์ที่ไม่มีแผลหลังการรักษาหรืออาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่จะหายไปเองภายในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที เช่น การเลเซอร์กระตุ้นสร้างคอลลาเจน เพื่อให้เกิดการสร้างใหม่ทำให้เกิดการฟื้นฟูสภาพผิวด้วยตัวเอง การยกกระชับผิว กระชับริ้วรอย ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เลเซอร์กำจัดขน และ เลเซอร์ลบรอยแดงผิวที่ไม่มีบาดแผลหลังทำด้วยเช่นกัน

2. เลเซอร์แบบมีแผล 

เลเซอร์แบบมีแผล (Fractional Ablative Laser) เป็นการใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนในผิวหนัง ซึ่งอาจต้องดูแลผิวหลังเลเซอร์มากกว่าเลเซอร์แบบไม่มีแผล เนื่องจากหลังการรักษาจะเกิดแผลและการตกสะเก็ด เช่น เลเซอร์ CO2 , Fractional, IPL, Pico laser เป็นต้น

ผลข้างเคียงที่ควรระวังหลังทำเลเซอร์

หลังจากการทำเลเซอร์ ผิวมักมีความอ่อนแอและบอบบางลง เนื่องจากชั้นบนของผิวถูกกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ใหม่ บางครั้งอาจมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อย รวมถึงอาจมีผิวแห้งหรือลอก ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ผิวกำลังฟื้นฟู จึงอาจทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง ผิวไวต่อแสงและระคายเคืองได้ง่าย เช่น

  • อาการบวม แดง และแสบร้อน เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังทำเลเซอร์ ซึ่งอาจคงอยู่ไม่กี่ชั่วโมงถึงหลายวัน
  • ผิวแห้งลอก หลังทำเลเซอร์ ผิวอาจแห้งและเริ่มลอกเป็นขุย เนื่องจากชั้นเซลล์ผิวเก่าถูกทำลายไป
  • การเกิดรอยดำหรือรอยแดง หากไม่ได้รับการดูแลผิวหลังเลเซอร์อย่างเหมาะสม ผิวอาจทำให้เกิดรอยดำหรือรอยแดงขึ้นได้

8 วิธี ดูแลผิวหลังเลเซอร์ 

การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เนื่องจากเลเซอร์อาจส่งผลต่อโครงสร้างผิวหนังและทำให้ผิวอยู่ในสภาวะบอบบาง การปฏิบัติตามวิธีการดูแลผิวหลังเลเซอร์ที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันการอักเสบ ลดโอกาสการติดเชื้อ และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงได้เร็วยิ่งขึ้น โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเน้นการบำรุงผิวด้วยความชุ่มชื้นและป้องกันแสงแดดอยู่เสมอ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

เนื่องจากหลังทำเลเซอร์ ผิวหนังจะมีความไวต่อแสงมากขึ้น การสัมผัสแสงแดดโดยตรงอาจทำให้เกิดรอยแดง ผิวคล้ำ และเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าหรือกระเพิ่มขึ้นได้ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังทำเลเซอร์ หากจำเป็นต้องออกนอกอาคารให้ใช้ร่มหรือหมวกกันแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป โดยเลือกใช้สูตรที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม และเหมาะสำหรับผิวบอบบางโดยเฉพาะ

2. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

เนื่องจากหลังเลเซอร์ผิวจะมีความไวต่อแสงแดดสูง ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี แนะนำให้ทาครีมกันแดดทุกเช้าและทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

3. ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

หลังทำเลเซอร์ ควรดูแลผิวด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หรือเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้ง เพราะหลังจากทำเลเซอร์ผิวมักจะแห้งและลอกได้ง่าย การใช้มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยเติมความชุ่มชื้นและช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิวได้นานขึ้น จึงช่วยลดอาการระคายเคืองผิว รวมถึงช่วยให้ผิวแข็งแรงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง 

4. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

การดูแลผิวหลังเลเซอร์สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายใน โดยการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวได้เร็วและแข็งแรงมากขึ้น

5. หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูผิว

ผิวที่ผ่านการเลเซอร์มักมีความบอบบางและต้องการการดูแลที่มากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกัดกร่อนหรือมีความเป็นกรด เช่น กรดผลไม้ (AHA) หรือ กรดซาลิไซลิก (BHA) เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย รวมถึงหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหน้าแรงๆ หรือ สครับผิวหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสูตรอ่อนโยนและล้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยน้ำสะอาด

6. งดแต่งหน้าชั่วคราว

หลังทำเลเซอร์ ควรปล่อยให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ โดยหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 3-7 วันหลังทำเลเซอร์ แต่หากจำเป็นต้องแต่งหน้าให้เลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย และเหมาะสำหรับผิวบอบบาง

7. งดออกกำลังกายหนักและอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิสูง การออกกำลังกายหนักหรือการไปห้องซาวน่าอาจทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและมีโอกาสติดเชื้อได้ จึงควรงดการออกกำลังกายหนักและการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและปัญหาที่อาจเกิดจากการติดเชื้อ

8. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า

หลังทำเลเซอร์แล้วระยะหนึ่ง แผลเลเซอร์จะเริ่มตกสะเก็ด หลายคนมักพยายามดึงสะเก็ดผิวออก ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ หรือ ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผิวหน้า และปล่อยให้สะเก็ดผิวหลุดเองตามธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้วสะเก็ดผิวจะหลุดได้เองภายใน 7 – 14 วัน

นอกจากนี้ หลังทำเลเซอร์ ควรงดการทำทรีตเมนท์และเลเซอร์อื่นๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ หากรู้สึกระคายเคือง หรือ แสบร้อน สามารถประคบเย็นหลังการทำเลเซอร์ได้ โดยหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณทำเลเซอร์อย่างน้อย 24-48 ชม. และ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา

ดูแลผิวหลังเลเซอร์ ข้อห้ามหลังเลเซอร์หน้า

ดูแลผิวหลังเลเซอร์ ด้วยสารอาหารบำรุงผิว

อาหารที่ควรรับประทานหลังการทำเลเซอร์ ควรเป็นอาหารที่ช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ได้แก่ 

  • อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น คะน้า บรอกโคลี ส้ม กีวี ฝรั่ง ฯลฯ เพราะวิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวและช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาเซลล์ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด
  • อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เช่น แครอท ฟักทอง และผักใบเขียว ซึ่งวิตามินเอมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ป้องกันผิวแห้ง ช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น 
  • อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 พบมากใน ปลาแซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล ซาร์ดีน หอยนางรม ถั่ววอลนัท ถั่วเหลือง เมล็ดพืชชนิดต่างๆ ที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 
  • สารสกัดเมล็ดองุ่น มีส่วนช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยดำ หรือรอยแผล ด้วยสารโอพีซี (OPCs ; Oligomeric proanthocyanidins) ที่เป็นสารสำคัญของเมล็ดองุ่นที่อยู่ในกลุ่มของไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoid) มีบทบาทในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และ แรงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า อีกทั้งยังมีบทบาทยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นตัวการที่เกี่ยวกับการสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยลดรอยดำหรือจุดด่างดำที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากผิดปกติได้
  • สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส มีบทบาทช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและปรับโครงสร้างผิวเพื่อให้เกิดความสมดุลในการสร้างเม็ดสี ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและดูกระจ่างใสขึ้น หากรับประทานร่วมกับวิตามินซี วิตามินอี สารสกัดจากข้าว สารสกัดจากสาหร่ายดีซาลีนา และ สารสกัดจากมะเขือเทศ จะช่วยลดเลือนจุดดำ และ ป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำ โดยเฉพาะหลังการทำเลเซอร์กระ ฝ้า ที่เซลล์ทำให้ผิวอ่อนแอ ไวต่อความร้อน และแสงแดด

อ่านต่อ : หน้าเป็นฝ้าเกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำเลเซอร์หน้า

หลังเลเซอร์หน้า อาจมีอาหารบางประเภทที่ห้ามรับประทานหรือให้งดรับประทานชั่วคราว เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่และป้องกันผิวอักเสบ เช่น

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะมีผลทำให้ผิวแห้งและอาจเกิดการอักเสบได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง ไม่ว่าจะเป็น เบเกอรี่ ขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารแปรรูป ซึ่งอาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผิวเกิดการอักเสบและฟื้นตัวได้ช้าลงนั่นเอง
  • อาหารเผ็ดและเค็มจัด อาหารที่เผ็ดจัดหรือเค็มเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคือง ในช่วงหลังทำเลเซอร์จึงควรเลือกอาหารที่มีรสชาติไม่จัดมาก เพื่อป้องกันโอกาสที่ทำให้ผิวอักเสบได้

หลังจากการทำเลเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์หน้า เลเซอร์ขน เลเซอร์ยกกระชับ ฯลฯ ควรมีการดูแลผิวหลังเลเซอร์ที่ถูกต้อง นอกจากการหลีกเลี่ยงแสงแดดและงดเว้นการรับประทานอาหารบางประเภทแล้ว ยังควรบำรุงผิวจากภายในด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อการเสริมสร้างเซลล์ผิวด้วย เช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส วิตามินและแร่ธาตุจากผักและผลไม้ รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปราศจากสารที่อาจก่อการระคายเคืองและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวหลังจากการทำเลเซอร์ได้ดียิ่งขึ้น 

อ้างอิง

1. MedPark Hospital

2. Nakornthon Hospital

3. Bangpakok Hospital

4. ฐานข้อมูล MEGA We care

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

ผิวแห้งและริ้วรอย

เรื่องริ้วรอย...ไม่ว่าใครก็คอยไม่ได้

ผิวแห้งและริ้วรอย

ความเชื่อผิดๆ ของการกินคอลลาเจนสำหรับผิว