ผิวอักเสบ เป็นภาวะการอักเสบของผิวหนังที่เกิดได้จากหลายสาเหตุและมีรูปแบบของอาการผิวอักเสบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ผิวแดง รู้สึกระคาย ผิว ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นจนเป็นสาเหตุของปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา ซึ่งการดูแลและฟื้นบำรุงผิวนั้นจำเป็นต้องสังเกตลักษณะของผิวที่อักเสบว่าเกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้หาสาเหตุและแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
ภาวะผิวหนังอักเสบ แห้งระคาย หรือแตกเป็นแผล อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ บนร่างกายและพบได้หลายลักษณะ เช่น
สาเหตุหลักของผิวอักเสบนอกจากการสัมผัสกับสารเคมีหรือสารก่อภูมิแพ้ การใช้ยาบางชนิดหรือโรคประจำตัวแล้ว ยังเกิดจากการที่มีภาวะผิวแห้งจากปัจจัยต่างๆ ด้วย เช่น
การดูแลผิวพรรณและฟื้นบำรุงผิว ควรฟื้นบำรุงทั้งจากภายนอกและภายใน เพื่อให้โครงสร้างของผิวหนังมีความยืดหยุ่นและสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ดีขึ้น รวมถึงการบำรุงผิวจากภายนอกเพื่อลดการระเหยของน้ำในผิวด้วย ดังนี้
1. ดูแลผิวอักเสบที่แห้งแตกเป็นแผล
หากผิวหนังเกิดการอักเสบ ส่งผลให้เกิดการระคายผิว จนต้องเกาบ่อยๆ และเกิดผิวแดง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ จึงควรดูแลด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการระคายผิวในเบื้องต้น เช่น การประคบเย็น หลีกเลี่ยงการถูหรือเกาแรงๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าและผิวหนังที่อ่อนโยน เป็นต้น หากอาการรุนแรงควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาอาการอย่างตรงจุด
2. ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว
ในช่วงที่อากาศแห้ง อากาศหนาวเย็น หรือผู้ที่มีลักษณะผิวแห้งมาโดยกำเนิด มักเกิดการสูญเสียน้ำออกจากผิวได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนและการใช้สบู่ที่มีค่า pH สูง เพราะจะทำให้ผิวแห้งตึงและระคายได้ง่าย นอกจากนี้ยังควรบำรุงผิวหลังอาบน้ำด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย
3. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
ภาวะผิวแห้งหรือผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบจากปัจจัยต่างๆ จำเป็นต้องดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอหรืออย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อเป็นการชดเชยการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนังและช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้น รวมถึงช่วยให้เซลล์ในร่างกายและระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. บำรุงผิวอักเสบด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
ปัญหาผิวแห้งที่นำไปสู่การเกิด ผิวอักเสบ ได้ง่าย อาจมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์ผิวหนัง คอลลาเจน และอีลาสติน เป็นต้น รวมไปถึงกรดไขมันจำเป็นอย่างโอเมก้า 6 (Omega-6) และกรดแกมมาไลโนเลนิก (Gamma-linolenic acid หรือ GLA) ซึ่งพบมากในน้ำมันจากเมล็ดของดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) ที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพ เช่น ลดอาการ PMS หรือ อาการก่อนเป็นประจำเดือน อาการวัยทองที่มักมีภาวะผิวแห้ง ผิวอักเสบ ปราการผิวอ่อนแอ เป็นต้น
อ่านต่อ : เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมัน อีฟนิ่งพริมโรส
ดังนััน ปัญหาผิวหนังอย่าง ผิวอักเสบ ผิวแห้งระคาย สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการบำรุงผิวให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาดของผิวหนัง เพื่อให้แบคทีเรียบนผิวหนังลดลง รวมถึงการบำรุงผิวทั้งจากภายในและภายนอก ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังโดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นหรือเริ่มเข้าสู่วัยทอง เพื่อช่วยเสริมให้ปราการผิวแข็งแรง ผิวหนังมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีภาวะผิวแห้งหรือผิวหนังอักเสบจากโรคทางผิวหนัง ควรเข้ารับการรักษาผิวอักเสบจากแพทย์ผิวหนังโดยตรง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังที่ปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายผิว ควบคู่ไปกับการเสริมความแข็งแรงให้ผิวและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ จะช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดีและแข็งแรงมากขึ้น