หลายคนทราบกันดีว่า Apple Cider Vinegar หรือ แอปเปิลไซเดอร์ นั้น มีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมน้ำหนัก ลดการกินจุบจิบ ตลอดจนการดูแลผิวหนัง และ สุขภาพด้านอื่นๆ แต่หลายคนยังกังวลในเรื่อง โทษของแอปเปิลไซเดอร์ ที่มักมีข้อสงสัยว่า จะทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือ แม้กระทั่งฟันกร่อน หรือ อาการเสียวฟันด้วยหรือไม่ ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการรับประทานน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลชนิดต่างๆ มาดูกันว่า ความเข้าใจผิด หรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จากการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์มีอะไรบ้าง และ วิธีรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร
การรับประทาน Apple Cider Vinegar ผิดวิธี และ ความเข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็น การดื่มแบบเข้มข้นโดยไม่ผสมน้ำ การดื่มปริมาณมากเกินไป หรือ เกินขนาดที่แนะนำ เพื่อหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ เช่น
จะเห็นได้ว่า วิธีการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์แบบผิดๆ หรือ หวังผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพ และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการรับประทาน การทำความเข้าใจประเภท ประโยชน์ และ การรับประทานที่ถูกวิธี จะช่วยให้การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ได้ประโยชน์สูงสุด และ ไม่เกิดโทษต่อร่างกาย
อ่านต่อ : ประโยชน์ของแอปเปิลไซเดอร์
การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม อาจขึ้นอยู่กับประเภทของแอปเปิลไซเดอร์ เช่น แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ด แบบเยลลีกัมมี หรือ แบบน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล โดยวิธีการรับประทานโดยทั่วไปสามารถทำได้ดังนี้
แอปเปิลไซเดอร์ แอปเปิลไซเดอร์หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล ที่มีประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนักและรูปร่าง ควรมีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย เช่น แอปเปิลไซเดอร์สูตรออแกนิก หรือ แบบมีตะกอน แอปเปิลไซเดอร์แบบกัมมี ที่ปราศจากน้ำตาลและอุดมไปด้วยใยอาหาร เป็นต้น ซึ่งเคยมีการทดลองบริโภคน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลสูตรออร์แกนิกแบบมีตะกอน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 มิลลิลิตรโดยเจือจางกับน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร ก่อนอาหารเช้าและเย็น พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีเส้นรอบวงเอวลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีแนวโน้มของการลดลงของเส้นรอบวงสะโพก ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ จะเห็นได้ว่า น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลที่มีเอนไซม์และโพรไบโอติกที่ดีต่อลำไส้ และดีต่อระบบขับถ่ายนั้น ส่งผลต่อการเปลี่ยนของเส้นรอบวงเอวมากขึ้น
หากเป็นน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล สามารถรับประทานได้วันละ 1-2 ครั้ง หรือ ปริมาณไม่เกิน 30 มิลลิลิตรต่อวัน หากรับประทานในรูปแบบกัมมี สามารถรับประทานตามฉลากข้างกล่อง เช่น หากต้องการได้รับแอปเปิลไซเดอร์ 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 6 ชิ้น ต่อวัน สามารถแบ่งรับประทานครั้งละ 2 ชิ้น ก่อนอาหาร 3 มื้อ เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์กัมมีนั้นจะช่วยให้รับประทานง่าย อิ่มนานขึ้น กลิ่นและรสชาติดีกว่า รวมถึงได้รับประโยชน์จากแอปเปิลไซเดอร์ได้อย่างครบถ้วน
เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ขณะท้องว่างมาเป็นเวลานาน หลังรับประทานยา หรือ ช่วงก่อนนอน เพราะอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนในผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคกรดไหลย้อนได้
เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและโทษของการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ ควรหลีกลี่ยง หรือ ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ได้แก่ ผู้ป่วยโรคกระเพาะ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟัน สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่รับประทานยาประจำ และผู้ที่รับประทานแอปเปิลไซเดอร์ปริมาณมากเกินไป เป็นระยะเวลานาน เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ และ โรคกระดูกพรุนได้
ดังนั้น การรับประทาน Apple Cider Vinegar อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง สิ่งสำคัญ คือ ในช่วงแรกควรเริ่มรับประทานจากปริมาณน้อยๆ ผสมกับน้ำสะอาด หรือ เจือจางในอัตราส่วนที่เหมาะสม และคอยสังเกตอาการของร่างกาย หากพบความผิดปกติ ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์ รวมถึงการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานและประเภทของแอปเปิลไซเดอร์ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้การรับประทานแอปเปิลไซเดอร์เกิดประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง