10 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วิตามินบีรวม

บำรุงสมองเสริมความจำ
วิตามินบี Vitamin B รวม

วิตามินบีรวม (Vitamin B complex) อีกหนึ่งวิตามินสำคัญที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับเพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะระบบสมองและประสาท

ไขข้อข้องใจ เรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากรู้เกี่ยวกับ ‘วิตามินบีรวม’

ถึงแม้จะเป็นวิตามินพื้นฐานที่คนทั่วไปรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังสงสัยและมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินบี ที่สำคัญยังมีอีกหลายสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ และนี่คือ 10 คำถามที่พบบ่อยในวิตามินบี

1. วิตามินบีรวม มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

คำตอบ : วิตามินบี มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ของปฏิกิริยาเผาผลาญสารอาหาร เพื่อนำไปสร้างสารสำคัญต่างๆ แก่ร่างกายให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงมีการทำงานอย่างสมบูรณ์ภายในร่างกายอย่างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

2. หากร่างกาย ขาดวิตามินบี จะส่งผลอย่างไร ?

คำตอบ : อาการของคนที่มีวิตามินบีไม่เพียงพอ จะแสดงออกมาพร้อมความอ่อนเพลีย ร่างกายเมื่อยล้า รวมถึงอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ คือ ความเครียดและวิตกกังวล ซึ่งแสดงออกมาโดยอาการมึนงง เบลอ มีความคิดช้า นึกอะไรไม่ออก หัวตื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน

อ่านต่อ : สัญญาณเตือนเมื่อตื่นนอนตอนเช้าที่บอกว่าร่างกาย ขาดวิตามิน B12

3. วิตามินบี สามารถพบได้จากแหล่งอาหารใดบ้าง ?

คำตอบ : แหล่งอาหารที่ให้วิตามินบี คือแหล่งอาหารกลุ่มโปรตีนเช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง รำข้าว ยีสต์ เครื่องในสัตว์ เนื้อหมู ปลา นมเปรี้ยว และผักใบเขียว แต่ปัจจุบันชีวิตประจำวันมีความเร่งรีบสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิตในเมือง จนทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากนัก การทานวิตามินบีในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยเสริมวิตามินบีได้ดีเลยทีเดียว

4. วิตามินบี เหมาะกับใครบ้าง ?

คำตอบ : ความจริงแล้วทุกคนจำเป็นต้องได้รับวิตามินบีอย่างเพียงพอในแต่ละวัน และอาจจะต้องมีปริมาณที่สูงขึ้น โดยเฉพาะบุคคล 3 กลุ่มดังต่อไปนี้

- คนวัยทำงาน และนักเรียน นักศึกษา ที่ทำงานหนักมีความเครียด การเสริมวิตามินบีรวม ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีความเครียดเป็นประจำ เพราะเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะดึงวิตามินบีออกมาใช้ วิตามินจึงมีปริมาณที่ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือน้อยและเกิดภาวะ ขาดวิตามินบี ซึ่งแสดงออกมาจากอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น วิตกกังวล และมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้วิตามินบีลดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปร่างกายต้องการพลังงานที่จะเผาผลาญ ร่างกายจึงดึงเกลือแร่และวิตามินออกมาใช้ในปริมาณมากกว่าปกติ แสดงออกมาโดยอาการเดินเซ ปวดเมื่อตามตัว หรือมีอาการแฮ้งค์ หรือเมาค้าง

- ผู้ที่มีอาการชาปลายมือ ปลายเท้า สาเหตุหนึ่งของอาการชาปลายมือ ปลายเท้าคือเกิดความเสื่อมของเส้นประสาท และระบบสัญญาณสื่อประสาทจากการขาดวิตามินบี จนทำให้การส่งกระแสประสาทช้าลง การเสริมวิตามินบีอย่างเพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการทำลายปลายประสาทและอาการชาตามปลายมือปลายเท้าได้

5. วิตามินบี ช่วยลดความเครียด ได้อย่างไร?

คำตอบ : เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด ฮอร์โมนเครียดหรือฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ขึ้นมา เพื่อจัดการกับความเครียด แต่เมื่อความเครียดที่มีมากขึ้น จะเกิดการสะสมของคอร์ติซอลมากผิดปกติ เกิดการเผาผลาญในร่างกายมากขึ้น และใช้วิตามินบีมากตามไปด้วย ซึ่งทำให้เกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย มึนงง สมองล้า และส่งผลเสียต่อ่างกายไปมากกว่าเดิม การได้รับวิตามินบีรวมในปริมาณที่เพียงพอจึงช่วยลดความเครียด และอาการอ่อนเพลียได้

6. วิตามินบี ป้องกันอาการเมาค้างได้จริงหรือไม่ ?

คำตอบ : สามารถป้องกันอาการเมาค้างได้จริง เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วิตามินบีในร่างกายลดลง การรับประทานวิตามินบีก่อนดื่มอลกอฮอล์จึงเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเติมวิตามินบีให้เพียงพอก่อนที่ร่างกายจะดึงวิตามินออกมาใช้เพื่อการเผาผลาญและช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้

7. วิตามินบีเข้มข้นอันตรายไหม?

คำตอบ : วิตามินบีสูตรเข้มข้นมีความปลอดภัย เพราะวิตามินบีเป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ และเมื่อร่างกายได้รับวิตามินบีไปแล้ว วิตามินบีจะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะและเหงื่อ จึงไม่สะสมในร่างกายอย่างแน่นอน

8. ทำไมรับประทาน วิตามินบี แล้วปัสสาวะเหลือง?

คำตอบ : หลายคน ที่เคยทานวิตามินบรรวมไปแล้ว อาจพบว่าตัวเองมีปัสสาวะสีเหบืองเข้ม หรือมีกลิ่นฉุน จึงเกิดความกังวล แท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรที่น่ากังวล เพราะสาเหตุมาจากวิตามินบีชนิดหนึ่งคือ วิตามินบี 2 ที่มีสีเหลืองนั่นเอง เมื่อเราทานวิตามินบีเข้าไปแล้ว วิตามินบีจะละลายน้ำไม่สะสมในร่างกาย และขับออกทางปัสสาวะ โดยเมื่อมีการขับวิตามินบี 2 ออกมา ปัสสาวะจะมีสีเหลืองและกลิ่นที่เด่นชัดกว่า ซึ่งเป็นปกติของการขับวิตามินบี 2 นั่นเอง

9. ถ้าจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินบี ต้องมีวิธีเลือกอย่างไร ?

คำตอบ :

  • ควรเลือกสูตรวิตามินบีที่ครบถ้วนทั้ง 10 ชนิด เนื่องจากวิตามินบีแต่ละชนิดจะช่วยเสริมการทำงานร่วมกัน
  • ควรเลือกสูตรสมดุล 1:1 โดยวิตามินบีแต่ละชนิดมีปริมาณที่เท่ากัน เพราะจะไม่ขัดขวางการดูดซึมซึ่งกันและกัน
  • ควรเลือกวิตามินบีที่มีปริมาณสูงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยปริมาณที่แนะนำของวิตามินบีแต่ละชนิดคือ 25-300 มิลลิกรัมต่อวัน

10. รับประทานวิตามินบีอย่างไรให้ร่างกายได้ประโยชน์มากดีที่สุด ?

คำตอบ : โดยทั่วไปสามารถทานวิตามินบีได้ทุกวัน วันละ 1 เม็ด ในช่วงเช้า เพื่อให้สดชื่น สมองปลอดโปร่ง สำหรับบางรายที่รู้สึกอ่อนเพลีย จากการทำงาน มาตลอดทั้งวัน สามารถรับประทาน 1 เม็ด ก่อนนอนเพื่อลดความอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ลดความเครียดแก่สมองและร่างกาย ช่วยให้หลับสบายมากขึ้น หรือสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันอาการเมาค้าง แนะนำให้รับประทานก่อนดื่มแอลกอฮอล์ 30 นาที 1 เม็ดและรับประทานหลังตื่นนอน 1 เม็ด เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

ภาวะนอนไม่หลับ

วาเลอเรียน สมุนไพรที่ช่วยให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ

ภาวะนอนไม่หลับ

อยากนอน แต่นอนไม่หลับ

ภาวะนอนไม่หลับ

การนอนไม่หลับ ปัญหาสุขภาพวัยสูงอายุ